วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

โอนิกิริ ข้าวกล้องใส้ปลาซาบะย่าง

โฮมเมด “โอนิกิริ ข้าวกล้องใส้ปลาซาบะย่าง”ทำเองเราเลือกได้

โฮมเมด “โอนิกิริ ข้าวกล้องใส้ปลาซาบะย่าง”ทำเองเราเลือกได้

ประวัติความเป็นมาของเจ้า โอนิกิริ

ในศตวรรษที่ 11 ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ Murasaki Shikibu ได้บันทึกลงในไดอารี่ของเธอ (Murasaki Shikibu Nikki) เกี่ยวกับผู้คนที่ได้รับประทานลูกบอลข้าว สมัยนั้นโอนิกิริถูกเรียกว่า Tonjiki และ มักจะถูกบริโภคเป็นอาหารกลางวันหรือไม่ก็นำไปปิคนิค ช่วงสมัยศตวรรษที่ 17 เหล่าซามูไรได้นำเจ้าลูกบอลข้าวห่อใบไผ่ไปเป็นเสบียงในช่วงสงคราม แต่ความจริงแล้วประวัติความเป็นมาของโอนิกิรินั้น มีมานานกว่ายุคที่ผู้หญิงคนนี้จดบันทึกเสียอีก แต่ช่วงที่โอนิกิริเริ่มเป็นที่รู้จักกันมากก็คงจะเป็นช่วงยุคนี้แหล่ะค่ะ เมื่อก่อนตอนที่จะกิน ก็จะต้องใช้ช้อนตัดแบ่งกัน แต่พอมาถึงยุคนาระ (Nara) ก็ได้มีการตัดเป็นคำเล็กๆ เพื่อความสะดวกในการรับประทานด้วยค่ะ
ตั้งแต่ สมัยคามาคุระ (Kamakura) จนถึงต้นเอโดะ (Edo) โอนิกิริเป็นอาหารที่เรียกว่า quick meal เพราะมีวิธีการทำที่ง่ายและสะดวก เหล่าพ่อครัวแม่ครัว จึงแค่ผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า โดยไม่ต้องใส่ใจเรื่องการบริการมากนัก ตอนนั้นโอนิกิริเป็นข้าวปั้นธรรมดาที่มีรสเกลือและสาหร่าย จึงไม่แพร่หลายกว้างขวางนัก พอในยุคเกนโรคุ (กลางยุคเอโดะ) จึงมีการทำฟาร์มสาหร่ายเพื่อรองรับปริมาณความต้องการของโอนิกิริที่จะทำขาย ในวงกว้างขึ้น
มีความเชื่อว่าโอนิกิรินั้นไม่สามารถผลิตได้ด้วย เครื่องจักร ถือเป็นเรื่องยากเกินไปในตอนนั้น แต่พอช่วงปี 1980 ก็มีเครื่องมือที่ทำให้โอนิกิริเป็นรูปสามเหลี่ยมถูกสร้างขึ้น ตั้งแต่มีเจ้าเครื่องนี้โอนิกิริก็จะถูกเสิร์ฟพร้อมกับสาหร่ายเลย แต่พอทิ้งไว้สักพักสาหร่ายก็จะเริ่มชื้นและเหนียว ติดหนึบกับตัวข้าว จึงมีการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์โดยแยกสาหร่ายออกจากข้าว พอจะทานค่อยห่อสาหร่ายเข้ากับข้าวปั้น ปัจจุบันคนนิยมทำข้าวปั้น เป็นข้าวห่อกันจากที่บ้าน หรือถ้าอยากจะสะดวกสบายหน่อย ก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้า ทั่วไปที่ขายโอนิกิริค่ะ (Credit: marumura.com)
มาถึงตรงนี้ด้วยความที่ชอบทานมากก็เลยจัดการดัดแปลงซะโดยใช้ข้าวกล้องบ้านเรานี่หล่ะค่ะ วันนี้ผึ้งทำมาเป็นอาหารเช้ามาทานที่ทำงานอยู่ท้องได้ประโยชน์ดีค่ะ
ส่วนผสมและอุปกรณ์
  • ข้าวกล้อง (ลองอ่านประโยชน์ของข้าวกล้อง) หุงให้น้ำมากกว่าปรกตินิดนึง 1 ก้อนใช้ 1 ทัพพี ให้พลังงาน 80 kcal
  • ปลาซาบะย่างกับเกลือขูดเอาเเต่เนื้อเอาก้างกับหนังออก 1 ก้อนใช้ 1 ช้อนโต๊ะประมาณ 15 กรัม ให้พลังงาน 18 kcal
  • เกลือเล็กน้อยชิมเอานะคะให้เค็มอ่อนๆ เพราะปลาเราก็จะออกรสเค็มอยู่แล้วด้วย
  • สาหร่ายโรยข้าว ต่อก้อนใช้ 1 ช้อนโต๊ะ ใหเพลังงาน 20 kcal ใครจะใช้สาหร่ายเเผ่นๆมาตัดก็ได้ค่ะ
  • อ่างน้ำใส่น้ำ เพื่อจุมให้มือเปียกข้างจะได้ไม่ติด
  • ถ้วยใบใหญ่สำหรับผสมข้าว เเละทัพพีตักข้าว
วิธีการทำ
เมื่อข้าวสุกรอให้เย็นตัวลงซักหน่อยพอที่จะจับได้ไม่ร้อนนัก ตักข้าวใส่ถ้วยผสมนำทัพพีเกลี่ยข้าวให้เเผ่ออกเพื่อระบายความร้อน เติมเกลือเเล้วคลุกเคล้า ค่อยๆเติมทีละน้อยนะคะ เเล้วตะล่อมๆไป เมื่อชิมรสได้ที่ก็ นำมือจุมในน้ำพอเปียก นำข้าวขึ้นมาประมาณกำมือนึงปั้นให้เป็นก้อนแน่น ใช้นิ้วโป้งกดตรงกลางให้เป็นหลุม ตักใส้ปลาซาบะที่เราขูดไว้ใส่ลงไปแแล้วนำข้าวหยิบมือนึงปิดให้เต็มแล้วปั้นอัดข้าวให้เเน่นเป็นรูป 3 เหลี่ยม นำสาหร่ายโรยข้าวตักใส่จานเเบนๆเเล้วนำข้าวที่ปั้นแล้วคลุกกับสาหร่าย ใส่กล่อง Bento น้อยๆเตรียมไปทานได้แล้วค่ะ สำหรับคนที่ใช้สาหร่ายแผ่นเเนะนำให้เเยกสาหร่ายใส่ถุงไว้ต่างหากนะคะ เวลาจะทานค่อยนำมาห่อ สาหร่ายจะได้ไม่นิ่มไปเสียก่อนค่ะ
โอนิกิริทำเองก้อนนี้ 1 ก้อนขนาด 90 กรัม ให้พลังงาน 118 kcal ใครทานเป็นมื้อเที่ยงก็จัดเลย 2 ก้อนยังไหว เเล้วอย่าลืมหาผลไม้ทานด้วยนะคะ จะได้ครบสูตรสุขภาพดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น